ต้น กันเกรา ไม้มงคลประจำจังหวัดอุบลราชธานี
ต้น กันเกรา ไม้มงคลประจำจังหวัดอุบลราชธานี
ต้น กันเกรา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้มากในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้น กันเกรา เป็นไม้มงคลประจำจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์
ต้น กันเกรา มีลักษณะลำต้นตรง เปลือกต้นสีเทาอมน้ำตาล แตกเป็นร่องตามยาว กิ่งก้านสาขาแผ่กว้าง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบหยักมน ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ด้านล่างสีเขียวอ่อน
ดอก กันเกรา ออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกมี 5 กลีบ รูปไข่กลับ สีขาวหรือสีชมพูอ่อน เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก อับเรณูสีเหลือง
ผล กันเกรา เป็นผลแห้งแตก รูปทรงกลมแป้น มีขนาดเล็ก สีน้ำตาล เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดมีลักษณะแบน รูปรี สีน้ำตาล
ต้น กันเกรา เป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัดถึงแสงแดดปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง
ประโยชน์ของต้น กันเกรา
ต้น กันเกรา มีประโยชน์มากมายทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
- ทางด้านเศรษฐกิจ
- เนื้อไม้ กันเกรา มีความแข็งแรง ทนทาน นิยมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ต่างๆ
- ใบ กันเกรา สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
- ดอก กันเกรา สามารถนำมาใช้ทำเป็นยาสมุนไพรได้
- ทางด้านสิ่งแวดล้อม
- ต้น กันเกรา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีใบดกหนา ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจนออกมาในอากาศ
- ต้น กันเกรา ช่วยลดมลพิษทางอากาศและเสียงได้
- ต้น กันเกรา ช่วยป้องกันการพังทลายของดินได้
การปลูกและดูแลต้น กันเกรา
การปลูกและดูแลต้น กันเกรา ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เตรียมดินให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมปลูกให้กว้างและลึกประมาณ 50 เซ็นติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ผสมดินกับปุ๋ยในอัตรา 1:1 แล้วกลบลงไปในหลุมปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
ต้น กันเกรา เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัดถึงแสงแดดปานกลาง ควรปลูกในที่โล่งแจ้งหรือมีร่มเงาเล็กน้อย รดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อบำรุงต้นให้เจริญเติบโตได้ดี
ต้น กันเกรา เป็นไม้ที่ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี แต่ก็อาจมีบ้างที่พบปัญหาโรคใบจุดหรือโรคราแป้ง หากพบอาการผิดปกติควรใช้ยาป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ