ผักชีช้าง: สมุนไพรไทยที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
ผักชีช้าง: สมุนไพรไทยที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
ผักชีช้างเป็นผักพื้นบ้านของไทยที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย โดยมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผักชีช้างมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coriandrum sativum และเป็นพืชในวงศ์เดียวกับผักชีฝรั่ง
ผักชีช้างมีลักษณะเป็นต้นสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรง มีใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยมีรูปร่างคล้ายหอก ขอบใบหยักเว้าลึก ดอกมีสีขาวหรือชมพูอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ผลมีลักษณะกลมแบน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ผักชีช้างมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยมีการใช้ในตำรับยาไทยมาอย่างยาวนาน โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยานั้น ได้แก่ ใบ ลำต้น และผล
สรรพคุณของผักชีช้าง
ผักชีช้างมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยมีการใช้ในตำรับยาไทยมาอย่างยาวนาน โดยสรรพคุณที่โดดเด่น ได้แก่
- ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ช่วยเจริญอาหาร
- ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ช่วยลดอาการปวดท้อง
- ช่วยขับเสมหะ
- ช่วยลดอาการไอ
- ช่วยลดอาการไข้
- ช่วยลดอาการปวดหัว
- ช่วยลดอาการอักเสบ
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
วิธีใช้ผักชีช้าง
ผักชีช้างสามารถนำมาใช้เป็นยาได้หลายวิธี โดยวิธีที่นิยม ได้แก่
- รับประทานสด: สามารถรับประทานใบหรือลำต้นผักชีช้างสดๆ โดยเคี้ยวหรือผสมในอาหาร
- ต้มน้ำดื่ม: นำใบหรือลำต้นผักชีช้างมาต้มกับน้ำแล้วดื่มเป็นชา
- ทำเป็นผง: นำใบหรือลำต้นผักชีช้างมาตากแห้งแล้วบดเป็นผง สามารถนำผงผักชีช้างมาชงกับน้ำร้อนดื่มเป็นชา หรือผสมในอาหาร
ข้อควรระวัง
แม้ว่าผักชีช้างจะมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการในการใช้ ได้แก่
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรรับประทานผักชีช้าง เพราะอาจทำให้เกิดการแท้งหรือคลอดก่อนกำหนดได้
- ผู้ที่มีโรคตับหรือโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผักชีช้าง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
- ผู้ที่แพ้ผักชีฝรั่งอาจแพ้ผักชีช้างได้เช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว ผักชีช้างเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยสำหรับการใช้ แต่หากมีข้อกังวลใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้